อบรมสัมมนา เทคนิคการทวงหนี้/ขอเชิญเข้าร่วมอบรมสัมมนาเทคนิคการติดตามหนี้|อบรมสัมมนา เทคนิคการทวงหนี้/ขอเชิญเข้าร่วมอบรมสัมมนาเทคนิคการติดตามหนี้

อบรมสัมมนา เทคนิคการทวงหนี้/ขอเชิญเข้าร่วมอบรมสัมมนาเทคนิคการติดตามหนี้

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

อบรมสัมมนา เทคนิคการทวงหนี้/ขอเชิญเข้าร่วมอบรมสัมมนาเทคนิคการติดตามหนี้

img src=\"http://widget.slide.com/rdr/1/1/2/S/2c00000007609330/1/241/Jxhygeu57T9rMyW1voEHBrb7n1FludqZ.jpg\" border=\"0\" alt=\"ฟรี! รูปภาพไม่จำกัดที่ slide.com Host\" title=\"ฟรี! รูปภาพไม่จำกัดที่ slide.com Host\" /> วันนี้ (30 เมษายน 2552) เวลา 09.00-12.00 น.อ.เดชา กิตติวิทยานันท์ ได้รับเชิญเป็นผู้บรรยาย “สินเชื่อเชิงปฏิบัติที่สัมฤทธิ์ผล ”

บทความวันที่ 30 เม.ย. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 10675 ครั้ง


ขอเชิญเข้าร่วมอบรมสัมมนาเทคนิคการติดตามหนี้ ในวันที่ 21 ธันวาคม 2552 ผู้ใดสนใจสำรองที่นั่ง 02-9485700 (คุณศุภานัน) อบรมสัมมนา “เทคนิคการทวงหนี้”สันนิบาตสหกรณ์ฯ

 

อบรมสัมมนา เทคนิคการทวงหนี้สันนิบาตสหกรณ์ฯ

 

            วันนี้ (30 เมษายน 2552) เวลา 09.00-12.00 น.อ.เดชา  กิตติวิทยานันท์  ได้รับเชิญเป็นผู้บรรยาย สินเชื่อเชิงปฏิบัติที่สัมฤทธิ์ผล   ให้กับสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย  ณ ห้องประชุมศูนย์การประชุมรัชนีแจ่มจรัส  สินนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย  เกี่ยวกับกลยุทธ์และเทคนิคการติดตามหนี้  โดยมีรายละเอียดหัวข้อสัมมนาคร่าว ๆ ดังนี้

กลยุทธ์และเทคนิคการติดตามหนี้

ภาพรวมและผลกระทบของการทวงหนี้ในปัจจุบัน

-  การทวงหนี้ในระบบ

มีกฎหมายควบคุม มีบทลงโทษที่ชัดเจน

 

-  สถาบันการเงิน

เช่น ธนาคารทั้งของไทยและต่างประเทศมีการคิดดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด เช่น พรบ.ธนาคาร ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย หนังสือเวียน เป็นต้น รวมทั้งการโฆษณาชวนเชื่อ ยังต้องถูกควบคุมการร้องเรียนต้องมีการแก้ไขที่ชัดเจน

 

- ไม่ใช่สถาบันการเงิน

เช่นการทวงหนี้ตามตลาดนัด การทวงหนี้โหด การทวงหนี้รายวัน หนี้แชร์ หนี้นายทุนเงินกู้ ไม่มีการกำหนดกรอบกติกาที่ชัดเจน มีแต่พรบ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา มีบทลงโทษน้อย  ตำรวจไม่ทำหน้าที่ ไม่มีการบังคับใช้กฎหมาย มีความรุนแรงทุกวัน เช่น ทำร้ายร่างกายลูกหนี้ กระทืบคาห้องน้ำ ตัดแขนที่นครสวรรค์ วางระเบิดเจ้าหนี้ที่ซอยเสือใหญ่ และที่โชคชัย 4 เป็นต้น ใช้ศาลเป็นเครื่องมือ แต่มีเจ้าหนี้บางรายที่มีการฟ้องร้องจำนวนมาก ถูกศาลจำคุก 3 ปีมาแล้ว  ปัญหาที่พบเห็นบ่อยตามรัฐวิสาหกิจและส่วนราชการคนเหล่านี้ขาดระเบียบวินัยในการใช้เงิน ก่อหนี้ก่อสินเกินตัว ล่าสุดมีระดับผอ.ของขสมก.คนหนึ่งถูกไล่ออกจากงานเพราะเป็นตัวแทนในการกู้เงินสหกรณ์ให้กับลูกหนี้และเอาเงินไปใช้เองเนื่องจากติดการพนัน มีภรรยาหลายคนเป็นต้น

 

-  การทวงหนี้นอกระบบ

ใช้ความรุนแรง เช่น ใช้นักเลงอันธพาล พวกติดยา มีการใช้อาวุธทุกชนิด ฝ่าฝืนกฎหมายทุกขั้นตอน ทำตัวเป็นศาลเตี้ย ไม่มีการทำหลักฐานเป็นหนังสือ พิพากษาเอง

 

-  ผลกระทบต่อภาพลักษณ์

1. ภาพลักษณ์เจ้าหนี้เสียหาย สังคมมองว่าเอาเปรียบลูกหนี้

2.      มีการตั้งชมรมรวมพลคนชักดาบขึ้นเต็มบ้านเต็มเมือง เช่นชมรมพิทักษ์สิทธิ

ลูกหนี้ เครือข่ายลูกหนี้ ชมรมลูกหนี้บัตรเครดิต ส่งเสริมให้เบี้ยวอย่างเดียว ชี้ช่องว่างในการเบี้ยวหนี้ สร้างวัฒนธรรมขี้โกง ชี้ให้ลูกหนี้เห็นว่าเบี้ยวแล้วสบาย ทรัพย์สินไม่มีให้ยึด แถมไม่ต้องติดคุก เครือข่ายขยายตัวแบบก้าวกระโดดเพราะเห็นประโยชน์ชัดเจนในการเป็นสมาชิกเครือข่าย ทุกคนถือดาบคนละเล่ม พร้อมชักกันทั้งชมรม

 

- แนวโน้มความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการทวงหนี้

1.มีมากขึ้นแบบทวีคูณเห็นได้จากข่าวที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์ วิทยุ ทีวี

2. การตอบโต้กลับของลูกหนี้ก็เริ่มมีมากขึ้น เช่น ดักตีหัวเจ้าหนี้ ข่มขู่เจ้าหนี้ ฆ่ายกครัว ปล้นบ้านเจ้าหนี้ ไม่ขโมยทรัพย์สินแต่เอาสัญญากู้ไป

3. เศรษฐกิจย่ำแย่ การเมืองหมดทางออก แถมไข้หวัดหมูยังตามซ้ำ รัฐบาลหมดตัว เลิกจ้างทุกวัน ลูกหนี้หมดหนทางทำมาหากิน การทวงหนี้จึงเป็นเรื่องยาก ค่าจ้างทวงหนี้สูง ความรุนแรงก็จะมากขึ้นไปตามกัน

 

ปัจจัยที่ทำให้การทวงหนี้ประสบความสำเร็จ

-  ปัจจัยจากพนักงานติดตามหนี้

ต้องมีคุณสมบัติของการเป็นพนักงานติดตามทวงถามหนี้

 

-  ปัจจัยจากลูกหนี้

1.      ความสามารถในการชำระหนี้

2.      ทรัพย์สิน

3.      ผู้ค้ำประกัน

4.      ทัศนคติและความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหา

5.      การมีระเบียบวินัยในการใช้จ่ายของลูกหนี้

-  ความสามารถในการเจรจาต่อรอง

1.  พูดดีคุยดีกับลูกหนี้แต่ไม่มีความสามารถในการเจรจาต่อรองเสียเวลาเปล่า

2.  นักทวงหนี้ต้องฟังก่อนและจับประเด็น ห้ามขัดแย้ง เมื่อโอกาสจะต้องต่อรองทันที โดยต่อรองแบบขั้นบันได ตั้งเป้าหมายย่อยหลาย  ๆ เป้าหมาย เพื่อนำไปสู่เป้าหมายสุดท้ายคือการชำระหนี้ทั้งหมด เสนอทางเลือกเสนอทางออก โน้มน้าวให้เห็นถึงข้อดีในการชำระหนี้ เป็นงานยาก  คนที่จะเป็นนักเจรจาต่อรองควรเป็นคนใจเย็น เน้นสันติวิธี  ต้องใช้ประสบการหรือเรียนรู้จากเพื่อนรวมงานหรือผู้บังคับบัญชาอย่างสม่ำเสมอ ถ้าต่อรองสำเร็จ การทวงหนี้ก็สำเร็จ

 

การใช้เครื่องมือต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับองค์กร/นักทวงหนี้/ตัวลูกหนี้/สถานการณ์ในการทวงหนี้

1.      ขยายเวลาชำระหนี้

2.      เปลี่ยนตัวลูกหนี้

3.      ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้

4.      ไถ่ถอนหลักประกัน

5.      ออกหนังสือติดตามทวงถามหนี้ตามความหนักเบา

6.      ตีหลักประกันชำระหนี้

7.      เสนอเงื่อนไขให้ชำระหนี้ครั้งเดียวเป็นเงินโดยลดยอดหนี้

8.      เสนอเงื่อนไขเกี่ยวกับการลดดอกเบี้ยบางส่วน

9.      การส่งฟ้องศาล

10.  การทำยอมในชั้นศาล

11.  การบังคับคดี

12.  การขายทอดตลาด

13.  การให้โอกาสซื้อทรัพย์คืน

 

ปัจจัยที่ทำให้การทวงหนี้ล้มเหลว

-          ขาดประสบการณ์

-          ควบคุมอารมณ์ตนเองไม่ได้

-          ก่อนทวงหนี้ทำการบ้านน้อยเกินไป

-          ขาดคุณสมบัติที่จำเป็นของพนักงานทวงหนี้ที่ดี

-          ขาดความเข้าใจในธรรมชาติของลูกหนี้

 

การทวงหนี้ทางโทรศัพท์

การทวงหนี้ภาคสนาม

 

การรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบการทวงหนี้

-          การทำหนังสือรับสภาพหนี้

-          การออกหนังสือทวงถาม

-          การทำสัญญาประนีประนอมยอมความ

-          การเปลี่ยนตัวลูกหนี้

-          การแปลงหนี้ใหม่

 

เครื่องมือทางกฎหมายที่ใช้ในการทวงหนี้

-          ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ที่เป็นประโยชน์ในการทวงหนี้ เช่น หน้าที่ของลูกหนี้ที่ต้องชำระหนี้มาตรา 650 ความรับผิดเรื่องดอกเบี้ย มาตรา 654  ลูกหนี้ไม่มีข้อต่อสู้คดีเกี่ยวกับเรื่องการกู้ยืมเงิน เพราะหลักฐานชัดเจน นำสืบยาก มาตรา 653 อายุความในการฟ้องร้องก็นาน มาตรา 193/30  การค้ำประกันผู้ค้ำประกันมีหน้าที่ต้องชำระแทนลูกหนี้ตามมาตรา 680 และเจ้าหนี้มีสิทธิเลือกที่จะให้ผู้ค้ำประกันชำระหนี้ได้ก่อน ตามมาตรา 686  ชำระหนี้แล้วผู้ค้ำประกันมีสิทธิไล่เบี้ยมาตรา 693  การจำนอง เจ้าหนี้มีสิทธิบังคับจำนองได้ตามมาตรา 728 และเป็นเจ้าหนี้บุริมสิทธิ์มีสิทธิได้รับชำระหนี้ก่อนเป็นต้น

 

-          ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

 

-          คำพิพากษาของศาลฎีกา

เช่น การนำสืบว่าได้ชำระหนี้แล้ว  ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ หากไม่มีหลักฐานต้องห้ามตามมาตรา 653 วรรคสอง การเบิกความเท็จของลูกหนี้ในชั้นศาล เช่นอ้างว่าได้ชำระหนี้แล้ว หากเป็นความเท็จอาจถูกดำเนินคดีฐานเบิกความเท็จในคดีแพ่ง มีโทษจำคุก 5 ปี ตาม ป.อ.มาตรา 177 เป็นต้น หรือคำพิพากษาในส่วนที่เกี่ยวกับดอกเบี้ยซึ่งเจ้าหนี้มีสิทธิคิดได้ตามกฎหมายอยู่แล้ว เช่น ตาม ป.พ.พ. มาตรา 654 ไม่เกินร้อยละ 15 เป็นต้น

 

-          ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

การฟ้องร้องเป็นสิทธิของเจ้าหนี้ตามกฎหมายเมื่อมีการโต้แย้งสิทธิตาม ป.วิแพ่งมาตรา 55  ความรับผิดในค่าธรรมเนียมศาล ค่าขึ้นศาลตามตาราง 1 ท้ายวิแพ่ง ร้อยละ 2 และค่าทนายความซึ่งศาลมีสิทธิกำหนดให้ลูกหนี้ชำระหนี้ให้กับเจ้าหนี้  ค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดี เช่น การยึด การอายัด การขายทอดตลาด ไม่ว่าจะยึดแล้วขายไม่ขายลูกหนี้ต้องชำระหนี้แทน ตาม ตาราง 5 ท้ายวิแพ่ง  สิทธิในการบังคับคดีของเจ้าหนี้ ตามมาตรา 271 มีถึง 10 ปี นอกจากนี้ยังมีพรบ.ล้มละลาย 2483  ยังสามารถจะขยายเวลาในการดำเนินการกับลูกหนี้ออกไปอีกถึง 3 ปี ถ้าทั้งต้นทั้งดอก บุคคลธรรมดา ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป  นิติบุคคล ตั้งแต่ 2 ล้านขึ้นไปตามมาตรา 9  เป็นต้น

 

-          กฎหมายอื่น ๆ

พรบ.วิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 การฟ้องการสืบพยานรวดเร็วและสั้น มีผลเสียต่อลูกหนี้ เช่นกำหนดนัดพิจารณาไม่เกิน 30 วัน ปิดหมายมีผลทันที บังคับคดีได้ภายใน 15 วัน ย่นย่อกระบวนการทุกชนิด  ตามมาตรา24 และมาตรา 64 เป็นต้น

ท่านใดสนใจเชิญ อ.เดชา กิตติวิทยานันท์  เป็นวิทยากรฝึกอบรมเกี่ยวกับเทคนิคการติดตามหนี้หรือความรู้ทางด้านกฎหมายทุกประเภท  สอบถามได้ที่ 02-948-5700

ภาพรวม (ภาพบรรยากาศการสัมมนาข้างล่างนี้)

 

 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

อยากทราบข่าวตราวและกิจกรรมการสัมนา

โดยคุณ 5 พ.ค. 2552, 15:52

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก