ฎีกาที่สำคัญเกี่ยวกับคดีเช่าซื้อรถยนต์
ทนายคลายทุกข์ขอนำคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับคดีเช่าซื้อรถยนต์ที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อผู้ให้เช่าซื้อและผู้เช่าซื้อจะได้รู้ถึงสิทธิและหน้าที่ของตนเอง เมื่อมีการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อหรือสัญญาเช่าซื้อสิ้นสุดลง โดยผลของสัญญา หรือโดยผลของกฎหมาย
ฎีกาที่ 356/2548
ฎีกา 8011/2548
ฎีกา 991/2548
ฎีกา 4108/2540
กรรมการโจทก์ลงชื่อในสัญญาเช่าซื้อไม่ครบถ้วนสัญญาเช่าซื้อจึงเป็นโมฆะ
ฎีกา 1703/2536
ฎีกา 2019/2531
ฎีกา 3149/2530
ฎีกา 356/2548
ฎีกา 1496/2548
ฎีกา 2677/2547
ฎีกา 3842/2526
ฎีกา 1195/2511 (ประชุมใหญ่)
ฎีกา 3668/2532
- ค่าขาดประโยชน์จากการที่ผู้ให้เช่าซื้อไม่ได้ใช้รถนั้นไม่ถือว่าเป็นหนี้ที่ค้างชำระ ผู้เช่าซื้อจึงไม่ต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยตามสัญญา ถึงแม้จะกำหนดดอกเบี้ยไว้ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี
ฎีกา 7812/2540
ฎีกา 6184/2547
ฎีกา 210/2545
- คำพิพากษาที่ให้ส่งมอบรถยนต์คืนโจทก์ในฐานะผู้ให้เช่าซื้อผู้เช่าซื้อจะต้องส่งมอบรถในสภาพที่ใช้การได้ดี ถ้ารถไม่มีทะเบียนไม่ทราบว่าเป็นคันเดียวกับที่ศาลพิพากษาหรือไม่ หรือไม่ดูแลรักษาผู้ให้เช่าซื้อซึ่งเป็นโจทก์ไม่ยอมรับรถยนต์ โดยอ้างว่าผู้เช่าซื้อปฏิบัติชำระหนี้ไม่ถูกต้องตรงตามคำพิพากษาและไม่อยู่ในสภาพใช้การได้ดี จึงมีเหตุผลและเป็นการกระทำโดยชอบแล้ว
ฎีกา3744/2526
- เรียกค่าเสียหายจากการใช้รถยนต์บุบสลายมีอายุความ 6 เดือน ป.พ.พ. มาตรา 563
ฎีกา 2576/2546
- เรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถหลังสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน ใช้อายุความทั่วไป 10 ปี
ฎีกา 3358/2530
- คดีเช่าซื้อไม่ได้บัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยตรง เรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระใช้อายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ. 193/33 (6)
ฎีกา 1643/2546
- ฟ้องให้ชำระส่วนที่ขาดทุนโดยมิได้เรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ อายุความ 10 ปี ป.พ.พ. มาตรา 193/30
ฎีกา 2171/2536
- ผู้เช่าซื้อไม่คืนรถ ผู้ให้เช่าซื้อจึงชอบที่จะติดตามเอารถคืนในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1336 ไม่มีอายุความ
ฎีกา 728/2529
- รถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย ผู้เช่าซื้อต้องชำระค่าเช่าซื้อทั้งสิ้นจนครบ เพราะถือว่าเป็นการฟ้องขอให้ชำระราคาทรัพย์ที่เช่าซื้อจนครบตามสัญญา กรณีนี้ไม่ถือว่าเป็นการเรียกค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ ใช้อายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30
ฎีกา 359/2509
- ผู้ค้ำประกัน 2 คน ผู้ค้ำประกันคนหนึ่งชำระหนี้แทนผู้เช่าซื้อแล้วรับช่วงสิทธิของผู้ให้เช่าซื้อไล่เบี้ยผู้ค้ำประกันอีกคนหนึ่งได้กึ่งหนึ่ง ตาม ป.พ.พ. มาตรา 229 (3) , 296
ฎีกา 7812/2540
- เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกกัน ผู้ให้เช่าซื้อไม่มีสิทธิคิดดอกเบี้ยตามสัญญา เรียกดอกเบี้ยผิดนัดได้เพียงในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 224 วรรคแรก
ฎีกา 1713/2546
- ถึงแม้ในสัญญาเช่าซื้อระบุให้คิดดอกเบี้ยได้ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี เมื่อมีการผิดนัด เมื่อสัญญาเช่าซื้อเลิกแล้ว นำมาใช้ไม่ได้ เรียกดอกเบี้ยได้เพียงร้อยละ 7.5 ต่อปี ตามมาตรา 224
ฎีกา 679/2540
- ผู้ให้เช่าซื้อมีหน้าที่ต้องส่งมอบทรัพย์สินที่ชอบด้วยกฎหมายที่เช่าซื้อให้ผู้เช่าซื้อได้ครอบครองและใช้ประโยชน์ หากทรัพย์สินที่เช่าซื้อดังกล่าวถูกเจ้าพนักงานยึดไปโดยสงสัยว่าจะเป็นทรัพย์สินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยผู้ให้เช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อมีหน้าที่ต้องรีบแจ้งเรื่องดังกล่าวแก่ผู้ให้เช่าซื้อ ผู้ให้เช่าซื้อมีหน้าที่ต้องรีบดำเนินการแสดงหลักฐานต่าง ๆ ต่อเจ้าพนักงานเพื่อขอริบทรัพย์สินที่เช่าซื้อคืนจากเจ้าพนักงาน แล้วส่งมอบให้แก่ผู้เช่าซื้อโดยเร็ว มิฉะนั้น ถือว่าผู้ให้เช่าซื้อเป็นฝ่ายผิดสัญญาเช่าซื้อต้องชดใช้ค่าเสียหายต่าง ๆ แก่ผู้เช่าซื้อ
ฎีกา 15/2522
- นำรถที่เช่าซื้อบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ตาม พ.ร.บ. ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14/31 รถใช้กระทำความผิดต้องริบ ตาม ป.อ. มาตรา 35
ฎีกา 1346/2529
- ผู้ให้เช่าซื้อเพิกเฉยไม่บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อรถที่ใช้ในการกระทำความผิด หลังเกิดเหตุนานถึงสี่ปีเศษ แสดงว่ามีเจตนาจะได้รับค่าเช่าซื้อเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่มีสิทธิขอคืนของกลาง
ฎีกา 3720/2525
- ถ้าผู้ให้เช่าซื้อมิได้รู้เห็นเป็นใจในการนำรถไปใช้ในการกระทำความผิดของคืนได้
ฎีกา 3242/2531
- รถถูกกรมศุลกากรมีคำสั่งให้ริบโดยไม่มีการฟ้องคดี จะมาขอให้ศาลคืนโดยอาศัย ป.อ. มาตรา 36 ไม่ได้
ฎีกา 1865/2533
การพิสูจน์ความเสียหายในคดีเช่าซื้อ