คิดว่าลูกสาว|คิดว่าลูกสาว

คิดว่าลูกสาว

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

คิดว่าลูกสาว

เด็กหนุ่มอายุประมาณ 25 ปี เดินเข้ามาที่สำนักงาน “ผมมาหานักสืบกุ้งครับ”

บทความวันที่ 27 ก.ย. 2555, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 9170 ครั้ง


คิดว่าลูกสาว

 

            เด็กหนุ่มอายุประมาณ 25 ปี เดินเข้ามาที่สำนักงาน “ผมมาหานักสืบกุ้งครับ” “เชิญข้างในคะ” เมื่อหนุ่มท่านนี้พบดิฉันเขาแนะนำตัวเองว่าเป็นทนายความ ได้รับคำแนะนำจากทนายความรุ่นพี่ มีความประสงค์จะให้สืบหาพยานหลักฐานในการฟ้องหย่า “เป็นของลูกความผมครับ” สนทนากันเวลาผ่านไปประมาณชั่วโมง ตกลงผมให้พี่ดำเนินการนะครับ ต้องการข้อมูลอะไรบ้าง?

          เป้าหมายนามสมมุติว่า “ป๋าเดช” อายุ 68 ปี  วันแรกของเคสนี้  ดิฉันพร้อมกับทีมงานสาวคู่หู  เฝ้าอยู่หน้าบ้านของเป้าหมาย ซึ่งมีรั้วรอบชอบชิด กำแพงบ้านสูงประมาณ 3 เมตร ประตูหน้าบ้านทึบ มองอะไรไม่เห็น คอยจ้องที่ประตูหน้าบ้านเวลามีคนเปิดเข้าออกว่ามีรถของเป้าหมายอยู่อะป่าว!  “พี่หนูว่าต่อตัวขึ้นไปยังมองไม่เห็นอะไรเลย  พรุ่งนี้เราเอาบันไดมาด้วยดีกว่า” “จะบ้าเหรอเดี๋ยวก็ถูกจับ หาว่าเป็นขโมยหรอก”  หน้าบ้านตรงข้ามกับวัด  ติดกำแพงด้านข้างบ้านเป็นสำนักงานเขต..   “พี่เฝ้าไปก่อนนะหนูขอเข้าวัดก่อน” “ไปทำไม” “เข้าห้องน้ำจ๊ะพี่”  เวลาผ่านไปประมาณ 5 นาทีเห็นน้องแก้ว วิ่งมามีเสียงตะโกนอย่างกระหืดกระหอบ “พี่กุ้ง พี่กุ้ง หนูถูกผีหรอก ห้า ห่า..” เสียงหายใจ  “ผีที่ไหน” “ในห้องน้ำพี่..กลางวันนี่นะ”  “จ๊ะ จิงๆ พี่ พอหนูเดินเข้าไปในห้องน้ำนะ ไฟก็สว่างว๊าบขึ้นมาเลย  หนูยังไม่ได้กดสวิท”  “5555 ดิฉันขำหัวเราะน้ำตาร่วง  ไอ้นั่นมันไฟอัตโนมัติ เขาใช้เซ็นเซอร์ พอมีคนเดินเข้าไปไฟก็เปิดเอง”  “จริงรึพี่” เอ่อซิว่ะ”  “เนี่ยมีใครเห็นอะป่าว อายเค้าตายเลย” “เอ่อ! พี่กุ้ง หนูเห็นผนังห้องด้านหลังมีรูด้วย ตรงข้ามกับบ้านเป้าหมายเลย  แต่หนูชะเง้อแล้วนะมองไม่เห็น  เข้าไปดูมั้ยพี่” “ ก็ดีเหมือนกัน ตรงนี้ยังไม่ได้เรื่องอะไรเลย”   หน้าห้องน้ำวัดมีตู้รับบริจาควางไว้ด้วย  เราเข้ากันหลายรอบแล้ว ทำบุญซะหน่อย “พี่กุ้งมาห้องนี้ ห้องนี้มีรู” “เหยียบชักโครกซิ” “เบาๆ”  “เอากล้องมาเร็วๆ  รถของเป้าหมายจอดอยู่นะ มีหลายคัน แต่มองไม่เห็นทะเบียน  มียี่ห้อฮอนด้าสีน้ำเงิน, BMW สีดำ , รถตู้สีขาว , โตโยต้าสีเหลือง  มีผู้หญิงแต่งตัวเหมือนคนใช้เลยพี่ เดินถือกระป๋องน้ำ นอกนั้นไม่เห็น” “ลงมาได้แล้ว เดี๋ยวชักโครกพังพอดี”  หลังจากเก็บภาพถ่ายในบริเวณบ้านเรียบร้อยแล้ว  ก็ต้องมานั่งเฝ้าหน้าบ้าน มีรถเข้าออกหลายคัน พนักงานส่งเอกสารก็วิ่ง เข้าออก  ไม่รู้ว่าทำธุรกิจอะไร ข้อมูลไม่ได้บอกไว้ บอกแต่ว่าเป้าหมายเป็นข้าราชการบำนาญ ส่วนกิ๊กที่ป๋าเดช ไปติดพรรณ ก็ทำงานรับราชการอยู่เคยเป็นลูกน้องเก่า   อายุไม่เกิน 40 ปี

ส่วนภรรยาที่จดทะเบียนสมรสคนที่เป็นผู้ว่าจ้างอยู่อีกบ้านหลัง แยกกันอยู่มาประมาณ 10 ปี แต่ป๋าเดชไม่ยอมเซ็นใบหย่าให้ ทั้งที่ป๋าก็มีกิ๊ก  ปัญหาสาเหตุที่จ้างนักสืบมาเฝ้าติดตามพฤติกรรมก็เพราะคิดว่ายังไงป๋าเดช ก็ต้องออกไปหากิ๊กทุกวัน แต่นี่เราเฝ้า 3-4 วัน เหตุการณ์ก็เหมือนเดิม ตอนกลางวันป๋าไม่ออกไปไหน แต่ตกเย็นเวลาประมาณ 17.30 น. ป๋าจะออกไปข้างนอกทุกวันกับลูกสาว 2 คน ไปนั่งทานข้าวต้ม “ดูท่าทางพ่อลูกคู่นี้เค้าสนิทสนมกันดีนะพี่” “ถ้าผู้ว่าจ้างไม่บอกว่า ป๋ามีลูกสาววัยประมาณ 40 ปี พักอาศัยบ้านเดียวกันละก้อ ยังกะเป็นกิ๊กกันเลยนะ” “ช่างเถอะ ถ่ายรูปไว้แล้วกัน”  เราจะเก็บหลักฐานการทำงานทุกวันในขณะปฏิบัติภารกิจ ไว้รายงานลูกค้า เดี๋ยวจะกล่าวหาว่าเราโกหก นักสืบมืออาชีพอย่างเราต้องรอบคอบ 

วันนี้วันที่ห้าแล้วนะ ไม่มีที่จอดรถเลยคนมาติดต่อราชการเยอะ แต่โชคดีลานวัดยังพอมีที่ว่าง ทางวัดทำตู้รับบริจาคไว้ที่ ใกล้ที่เรานั่งแดดร้อนมาก โชคดีตรงนี้มีร่มไม้  เรานั่งกันสองคน คนที่นำรถเข้ามาจอด เดินมาถาม “ค่าจอดรถเท่าไหร่ครับ?”   ชี้ไปที่ตู้  มีคนเดินมาเรื่อยๆ  โอ้! เห็นหน้าเราเหมือนเด็กเก็บเงินเลยเหรอ ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกัน เดินเข้าไปห้องน้ำมองกระจกดูตัวเอง โอ้ย! โคตรโทรมเลย เมื่อเช้าแต่งหน้ามา แต่ถูกลบไปด้วยเหงื่อ  ทนอีกหน่อยวันนี้เป็นสุดท้ายของการทำงานแล้ว  ตอนนี้เวลา 15.30 น.  เห็นป๋าเดช เดินออกมาเปิดประตูใหญ่หน้าบ้าน ให้รถฮอนด้าถอยหลังออกจาก  ป๋าปิดประตูบ้านแล้วเดินไปขึ้นรถ ผู้หญิงเป็นคนขับ และเป็นคนเดิมที่เราเห็นทุกเย็นที่ไปทานข้าวด้วยกัน  ตามไปดูซิว่าวันนี้ป๋าจะไปไหน ทำไมไม่ไปหากิ๊กซะทีนะ วันนี้ป๋าออกไปซื้อของที่โลตัส  ทานอาหารที่เอ็มเคสุกี้ 2 คนกับลูกสาว กลับบ้านประมาณ 6 โมงเย็นเศษ  หมดเวลาทำงานของเราแล้ว กลับสำนักงานไปสรุปรายงานพร้อมภาพถ่ายให้ผู้ว่าจ้างดีกว่า  นัดส่งรายงานให้ทนายความในวันรุ่งขึ้น   ในรายงานเราพิมพ์ไปว่าเป้าหมายไปกับลูกสาว และมีภาพประกอบให้ทุกวันที่เราเห็น เวลาผ่านไปสองวัน น้องทนายโทรมา พี่กุ้ง ๆ ลูกค้า Happy มากเลยพี่ ฝากขอบคุณพี่กุ้งและทีมงานด้วย “ อ้าว ทำไมละ ก็พี่ไม่ได้หลักฐานภาพเป้าหมายกับเมียน้อยเลยนะ” “ก็คนนั่นละครับพี่คือเมียน้อยเป้าหมาย...ไม่ใช่ลูกสาว” “ฮ้า! จิงดิ” งั้นก็แสดงว่าเขาอยู่บ้านเดียวกันแล้วหละ เพราะพี่เห็นผู้หญิงคนนี้อยู่ในบ้านทุกวันเลย...แต่ไม่นึก..

            ยิ้มออก..หน้าบานอีกแล้วเรา...เรื่องที่นึกไม่ถึงแบบนี้ยังมีอีกมั้ย 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก