คิดว่าลูกสาว...|คิดว่าลูกสาว...

คิดว่าลูกสาว...

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

คิดว่าลูกสาว...

หญิงสาวทักมาทางinbox แฟนเพจนักสืบคลายทุกข์

บทความวันที่ 23 ธ.ค. 2558, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 10593 ครั้ง


คิดว่าลูกสาว...

    หญิงสาวทักมาทางinbox แฟนเพจนักสืบคลายทุกข์ บอกว่ามีเรื่องจะปรึกษางานสืบ ขอเบอร์มือถือ พอได้เบอร์เธอโทรหาดิฉันทันที เล่าเรื่องราวให้ฟังว่า  เป้าหมายเป็นคุณพ่อ พวกลูกๆเรียกว่าป๋า  งานนี้เป็นความคิดคุณแม่ แต่แม่ไม่ต้องการจะออกหน้า มอบหน้าที่ให้ลูกๆจัดการ  เพราะทุกคนโตหมดแล้ว  สาเหตุมาจากวันหนึ่งคุณแม่ไปงานเลี้ยงแต่ป๋าไม่ได้ไปด้วย เพื่อนคุณแม่ก็มาทักว่า” ลูกสาวสวยนะ เมื่ออาทิตย์ที่เห็นสามีเธอและลูกสาวเดินด้วยกันที่ห้าง เซ็นทรัล เชียงใหม่ แต่ไม่ทันได้ทักทาย”  คุณแม่นิ่งอึ้งในใจไม่ได้ตอบโต้อะไร วางกิริยาอยู่ แต่ในใจลุกเป็นไฟเชียวแหล่ะ กลับถึงบ้านเล่าให้ลูกๆฟังและถามว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีใครไปเชียงใหม่กับคุณพ่อหรือเปล่า ลูกๆตอบพร้อมกันว่า “ไม่มี” เธอจึงเล่าเรื่องที่เพื่อนมาพูดให้ฟัง พวกลูกๆ จึงวางแผนกัน ว่าจะทำไงดีที่จะรู้ว่าใครเดินกับคุณพ่อ หรือว่ามีกิ๊ก ป๋าทำธุรกิจส่วนตัวเดินทางต่างจังหวัดบ่อย โดยเฉพาะเชียงใหม่จะไปสองเดือนครั้ง วันนึงโทรศัพท์ป๋าเสีย  ลูกๆได้โอกาสเลยเสนอไอโฟน 6 ให้ป๋า รุ่นใหม่ใช้ง่าย เครื่องใหญ่ดี ป๋าจะได้ใช้สะดวกปรับขนาดตัวอักษรให้หนาได้ด้วย  ป๋าเห็นด้วย ลูกชายจึงอาสาไปซื้อมาให้และแอบติดตั้งแอปพิเคชั่น GPS ไว้ด้วย เพื่อตรวจสอบความเคลื่อนไหวของป๋า ส่วนเครื่องเก่าก่อนนำไปเปลี่ยนลูกชายแอบเปิดมือถือดูเห็นคุย Line กับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่คนหนึ่ง หล่อนอายุประมาณ 20 ปีต้น เรียน ปี 2 คุยกันแบบแฟน บอกรักและคิดถึงกัน และมีการโอนเงินให้เด็กสาวด้วย  อีกประมาณสัปดาห์หน้าป๋าจะไปเชียงใหม่ ทุกคนเลยอยากรู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร หน้าตาชัดๆเป็นอย่างไร เพื่อเก็บไว้เห็นหลักฐาน ป๋าบอกว่าไปจะตรวจงานที่ร้านค้าที่เป็นเอเย่น แต่แม่และลูกๆไม่ค่อยเชื่อ น่าจะมีวัตถุประสงค์อื่นด้วย ป๋ามีลูกทั้งชายหญิงรวม 7 คน ทุกคนอยากรับรู้เหตุการณ์ด้วยจึงตั้ง Line group ขึ้นมา   และได้บอกรายละเอีดยเกี่ยวเป้าหมายมาทางLine group ทุกคนเข้าไปอ่านและโต้ตอบช่องนี้ได้เลย รวมทั้งดิฉันนักสืบกุ้งด้วย ผู้ว่าจ้างได้ส่งกำหนดการเดินทางป๋ามาให้พร้อมกับจองตั๋วเครื่องบินของนักสืบ 2 ใบมาด้วย งานนี้ มีดิฉันกับเพชซี่ เป็นผู้ปฏิบัติภารกิจนี้  ดิฉันจะบินไปก่อนล่วงหน้า 1 ชั่วโมงเพื่อไปเตรียมความพร้อม อุปกรณ์ในการทำงาน เช่น รถยนต์ น้ำมันพร้อม ส่วนเพชซี่ บินไปพร้อมเป้าหมาย เพชซี่เล่าเหตุการณ์ขณะตามเป้าหมายจากสนามดอนเมืองว่าตั้งแต่ เป้าหมายเช็คอินตั๋วไปนั่งรอขึ้นเครื่อง จะมองซ้ายขวาตลอดเวลา ลักษณะว่ากลัวอะไรบางสิ่งบางอย่าง  ดิฉันได้สอบถามลูกๆแล้วว่า เคยจ้างนักสืบ ติดตามพฤติกรรมป๋าหรือยัง  คำตอบคือไม่เคย ป๋าเป็นคนขี้ระแวงมั้ย  คำตอบคือไม่  ป๋าเป็นคนขับรถเร็วมั้ย คำตอบคือไม่ ก็คนแก่ๆคนหนึ่งขับรถน่ะพี่ ..โอเค!   แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย เพราะข้อมูลที่ให้มา ป๋าจะไปเช่ารถขับเอง ไม่เป็นไรงานนี้นักสืบกุ้งสู้ไม่มีปัญหาเรื่องเส้นทาง เพราะไปทำงานเชียงใหม่บ่อยมาก รู้เส้นทางมากกว่ากรุงเทพซะอีก  .. ได้เวลาใกล้เครื่องออกเพชซี่  ส่งข่าวผ่านทาง line group   ยังมีเวลาอีกชั่วโมงดิฉันก็ขับรถเล่นในเชียงใหม่ก่อน ไปหาซื้อเสบียงเตรียมใส่รถไว้ มาถึงเพชซี่ต้องหิวแน่เพราะเครื่องบินไม่มีอาหารแจก  วันนี้ยังไม่ทราบโปรแกรมป๋าเลย เพราะป๋าไม่ได้บอกใครว่าพักที่ไหน เพียงแต่บอกว่าจะไปหาลูกค้าเท่านั้น ทุกคนในกลุ่มส่งสติกเกอร์ทักทายหากัน รอฟังข่าวจากนักสืบ พอเครื่องลงจอด เพชซี่ส่ง line แจ้งทันที ป๋ามีกระเป๋าสะพายใบเดียวนะ เดินออกมาแล้วดิฉันจอดรถกระพริบไฟหน้าทางออก ยังไม่เห็นเลย สักพักเพชซี่วิ่งกระหืดกระหอบมา ป๋าออกมาแล้วยืนอยู่หน้าประตู 3 เหมือนจะรอใครมารับ เพชซี่โยนกระเป๋าใส่รถได้ก็เดินย้อนไปสังเกตุดูป๋าก่อน เห็นชายคนหนึ่งนำรถมาส่งป๋าแล้วก็ไป ส่วนป๋าก็ขับมาทางที่ดิฉันจอดรถอยู่ เพชซี่วิ่งขึ้นรถ ดิฉันกระชากตามทันที เพราะป๋าแกออกตัวแรงมาก  พอออกถนนใหญ่ได้ป๋าแกเหยียบซิ่งมาก ปาดซ้ายขวา  ดิฉันงง ก็ลูกเค้าบอกว่า คนแก่ขับรถนะพี่ ไม่มีอะไร เพื่อไขความสงสัย line  ไปถามเลย คำตอบคือใช่ ครับพี่ ป๋าขับรถแบบนี้เร็วมาก อยากจะเลี้ยวก็เลี้ยวไม่เปิดไฟ เป็นมานานแล้วพี่  (อ้าว ไหนตอนแรกบอกว่าปกติ)    ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ดิฉันบอกเพชซี่คาดเข็มขัดซิ่งตาม แต่ขอบอกวีออสนี่เหยียบ 120  ก็เร่งไม่ไหวแล้ว แต่โชคดีไฟแดงเยอะ ป๋าขับออกนอกเมืองขึ้นเขาไปไกลมาก ตอนนี้มันมืดแล้วจะไปไหนเนี่ย ลูกๆตอบมาว่าไปอำเภอฝาง ค่ะพี่ เพราะลูกค้าอยู่ที่โน่น นั่นซิ ไม่เห็นบอกก่อนเลย งานนี้ถ้าไม่มี GPS  ช่วยนักสืบแย่แน่ เพราะซิ่งบนเขาตามป๋าไม่ไหวหรอกคะ  ดิฉันตามไปเรื่อยๆพอเห็นแสงไฟท้าย พอถึงตัวอำเภอก็เช็คตำแหน่งเห็นรถจอดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง  เราจะเข้าไปพักด้วยแต่ปรากฎว่าห้องเต็ม ลูกๆบอกว่าที่นี่ไม่น่ามีอะไรสงสัยเพราะเด็กสาวคนนั้นอยู่ที่อำเภอเมืองเชียงใหม่  เมื่อป๋าเข้าห้องพักแล้ว เราก็ไปหาโรงแรมใกล้ๆพักบ้าง เช้ารุ่งขึ้น เรารีบตื่นมานั่งเฝ้าที่ลานจอดรถ เพราะกลัวเป้าหมายจะออกไปก่อน เรานั่งกันตั้งแต่ 6 โมงเช้า ป่านนี้จะ 10 โมงป๋ายังไม่ลงมา รถจอดในสภาพเดิม ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง เห็นป๋าเดินมาพร้อมหญิงสาวคนหนึ่ง ขึ้นรถออกไปด้วยกัน แต่ลักษณะไม่ใช่นักศึกษา เพราะดูจากหนังหน้าแล้วจะ 30 ปีกว่าแล้ว แต่งตัวธรรมดา  ส่วนป๋าใส่ชุดเดิม หัวกระเซอะกระเซิง ผมเผ้าไม่หวีเลย ขับรถออกไปส่งหญิงสาวที่คิวรถตู้หน้าตลาด ส่วนป๋าก็นำรถไปจอดที่ลานจอดของตลาด ยืนรอรถมารับไปไร่ส้มของลูกค้า ดิฉันส่งรูปป๋าและหญิงสาวไปให้ผู้ว่าจ้างดู “คนนี้ไม่แน่ใจคะพี่ ไม่รู้ครับพี่ สงสัยป๋ามีหลายคน นั้นเด็กกว่านี้นะ” ทุกคนสนทนาทาง line กลุ่มกัน ขณะที่ป๋าไปไร่ส้ม ผู้ว่าจ้างบอกว่าไม่ต้องตามไปเพราะเป็นป่าเดี๋ยวจะสงสัย  เราเดินเล่นในตลาด และนั่งรอในรถว่าป๋าจะกลับมาเอาเมื่อไหร่ จนกระทั่งบ่าย 3 โมง มีรถกระบะคันเดิมมาส่ง  ป๋าเดินไปที่รถขับออกไปมุ่งหน้าเชียงใหม่ ซิ่งเหมือนเดิม ดิฉันไม่ซิ่งตามแน่ เพราะข้างหนึ่งป็นภูเขา อีกข้างเป็นเหว ใม่สี่ยงชีวิตแน่ ขับตามหลัง มองไม่เห็นแม้แต่เงา พอถึงเชียงใหม่ค่อยเช็ค GPS พอถึงเชียงใหม่ตรวจสอบว่าป๋าพักที่ไหน ก็เข้าไปเช็คอินบ้าง วันนี้โชคดีมีห้องว่าง..  จังหวะนั้นเห็นป๋าเดินลงมาที่รถหยิบของ หญิงสาวคนหนึ่งเดินมาหน้าตาหล่อนคล้ายคนในเฟสบุ๊คที่หล่อนโพสต์คิดถึงป๋า   ดิฉันเดินตามไปสะพายกระเป๋าเดินทางไปด้วย ป๋าและหญิงสาวหันหน้ามามอง ด้วยความระแวง ก็เลยแกล้งทำเป็นโทรหาเพื่อนว่า “มาถึงแล้วเปิดประตูด้วย” จึงรู้ว่าทั้งสองพักห้อง  เก็บภาพได้เรียบร้อย   เก็บสัมภาระเรียบร้อย ลงไปนั่งที่ร้านอาหารกับเพชซี่สองคน วางแผนกันว่าถ้าเป้าหมายลงมาจะทำอย่างไร เวลาผ่านไป 4 ชั่วโมง  ทั้งสองลงมาจริงๆ แต่มองซ้ายขวาด้วยความระแวงตลอด ปล่อยให้พ้นรถออกจากลานจอดโรงแรมไปก่อน  เพชซี่สตารท์มอเตอร์ไซค์ทันที (เราเตรียมไว้ก่อนแล้วว่าจำเป็นต้องใช้มัน)  เพชซี่เป็นคนขับดิฉันซ้อนท้าย ซิ่งเหมือนเดิม แต่ไม่รอดสายตาเราหลอก เราใช้มอเตอร์ไซค์คล่องกว่า ทั้งสองไปทานข้าวต้ม เก็บภาพเสร็จกลับไปรอที่โรงแรมดีกว่า  ดิฉันนั่งรอที่ล๊อบบี้ เพชซี่นั่งซุ่มในรถคอยบอก พอเป้าหมายมาจอดรถ เพชซี่ส่งสัญญา ดิฉันก็เปิดหน้ากล้องเสียบหูฟัง นั่งร้องพลงแบบไม่สนใจอะไร แต่กำลังอัดวีดีโอ ทั้งสองเดินผ่านไป  บันทึกภาพเรียบร้อย ดิฉันเดินตามหลังไปพร้อมกับถุงใส่ของเซเว่นพะลุงพะลัง เหมือนเพิ่งกลับจากซื้อของ เดินพูดโทรศัพท์คนเดียว ดังๆ ทั้งสองไม่กล้าหันมามอง  ได้ภาพทั้งสองเข้าห้องกันเรียบร้อยแล้ว ..ชัดเจน ได้เวลาพักผ่อนแล้ว ขอนอนก่อนดีกว่า...นี่แหล่ะอยู่กับเราก็เป็นของเรา ออกนอกบ้านก็เป็นของคนอื่นๆ หลายคนไม่ใช่คนเดียวด้วย นี่แหล่ะคะ มนุษย์   นึกอะไรไม่ออกบอกนักสืบกุ้งได้ค่ะ ! 
 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก