เจ้าของที่ดินด้านหน้าปิดทางเข้าออกจนไม่มีทางออกขอคุ้มครองชั่วคราวได้ |เจ้าของที่ดินด้านหน้าปิดทางเข้าออกจนไม่มีทางออกขอคุ้มครองชั่วคราวได้ 

เจ้าของที่ดินด้านหน้าปิดทางเข้าออกจนไม่มีทางออกขอคุ้มครองชั่วคราวได้ 

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

เจ้าของที่ดินด้านหน้าปิดทางเข้าออกจนไม่มีทางออกขอคุ้มครองชั่วคราวได้ 

  • Defalut Image

 ถ้าหากที่ดินของท่านเป็นที่ดินตาบอด ไม่มีทางออก แล้วถูกเจ้าของที่ดินด้านหน้าปิดทาง

บทความวันที่ 18 ก.ค. 2561, 10:44

มีผู้อ่านทั้งหมด 828 ครั้ง


เจ้าของที่ดินด้านหน้าปิดทางเข้าออกจนไม่มีทางออกขอคุ้มครองชั่วคราวได้ 

               ถ้าหากที่ดินของท่านเป็นที่ดินตาบอด ไม่มีทางออก แล้วถูกเจ้าของที่ดินด้านหน้าปิดทาง ท่านสามารถไปฟ้องเป็นคดีแพ่งเพื่อให้เจ้าของที่ดินด้านหน้าเปิดทางจำเป็นได้ ในระหว่างดำเนินคดีท่านมีสิทธิยื่นคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินเพื่อเปิดทางในระหว่างพิจารณาคดีได้ครับ

คำพิพากษาที่เกี่ยวข้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 143/2538

             โจทก์มีพยานที่รู้เห็นขณะเกิดเหตุรวม 6 ปากเบิกความเป็นทำนองเดียวกันว่าไม่เห็นใครเป็นผู้ยิงผู้ตายทั้งตามพฤติการณ์แห่งคดีก็ไม่มีเหตุบ่งชี้ว่าจะเบิกความบ่ายเบี่ยงข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเหลือจำเลยประกอบกับขยะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนซึ่งขณะนั้นพยานโจทก์ทั้งหกมีอาการเมาสุรามากคำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งหกจึงมีน้ำหนักเชื่อได้ว่าเบิกความไปตามจริงยิ่งกว่าคำให้การชั้นสอบสวนที่ยืนยันว่าจำเลยใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายซึ่งเป็นพยานบอกเล่าและจำเลยไม่มีโอกาสได้ซักค้านเมื่อโจทก์ไม่มีพยานอื่นมาประกอบจึงไม่มีน้ำหนักที่จะรับฟังลงโทษจำเลยได้

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 227
 ให้ศาลใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานทั้งปวง อย่าพิพากษาลงโทษจนกว่าจะแน่ใจว่ามีการกระทำผิดจริงและจำเลยเป็นผู้กระทำความผิดนั้น
                เมื่อมีความสงสัยตามสมควรว่าจำเลยได้กระทำผิดหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลย

สอบถามข้อกฎหมายเกี่ยวกับคดีทางการแพทย์ 081-6161425 หรือ 02-9485700
 

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก