เอกชนไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย|เอกชนไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

เอกชนไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

เอกชนไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

  • Defalut Image

ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 เป็นความผิดที่รัฐมีหน้าที่ดำเนินการแก่ผู้กระทำความผิด

บทความวันที่ 16 ก.ค. 2561, 11:45

มีผู้อ่านทั้งหมด 1809 ครั้ง


เอกชนไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

                 ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 เป็นความผิดที่รัฐมีหน้าที่ดำเนินการแก่ผู้กระทำความผิด รัฐเท่านั้นจึงเป็นผู้เสียหาย

คำพิพากษาฎีกาอ้างอิง
คำพิพากษาฎีกาที่ 8119/2559 

              แม้พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2552 มาตรา 160ตรี วรรคสี่ บัญญัติว่า "ถ้าการกระทำความผิดวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษ..." อันแสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำต่อผู้อื่นก็ตาม แต่ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 เป็นความผิดที่รัฐมีหน้าที่ดำเนินการแก่ผู้กระทำความผิด รัฐเท่านั้นจึงเป็นผู้เสียหาย โจทก์ร่วมจึงมิใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานดังกล่าว ที่จะขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้ แม้โจทก์ร่วมมีสิทธิอุทธรณ์ในความผิดตามป อ. มาตรา 291 ก็ตาม แต่เมื่อศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยในความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งกฎหมายบทที่มีโทษหนักสุดตามพรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2552 มาตรา 43(2),160ตรี วรรคสี่แล้ว และโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานดังกล่าวโจทก์ร่วมจึงไม่ใช่คู่ความในความผิดตามพรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2552 มาตรา 43(2),160ตรี วรรคสี่จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยในสถานหนัก และไม่รอการลงโทษได้

ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 30
 คดีอาญาใดซึ่งพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในระยะใดระหว่างพิจารณาก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนั้นก็ได้
มาตรา 193  คดีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ เว้นแต่จะถูกห้ามอุทธรณ์โดยประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น
             อุทธรณ์ทุกฉบับต้องระบุข้อเท็จจริงโดยย่อหรือข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงเป็นลำดับ

พระราชบัญญัติจราจรทางบก  พ.ศ. 2522
มาตรา 43
 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถ
           (2) ในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น

มาตรา 160 ตรี  ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 43 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
             ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหนึ่งปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
            ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงหกปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสองหมื่นบาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าสองปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
           ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่

ปรึกษาข้อกฎหมายกับทีมทนายความ ทนายคลายทุกข์ โทร.02-9485700, 081-6161425

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก