เอกชนไม่ใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 เป็นความผิดที่รัฐมีหน้าที่ดำเนินการแก่ผู้กระทำความผิด รัฐเท่านั้นจึงเป็นผู้เสียหาย
คำพิพากษาฎีกาอ้างอิง
คำพิพากษาฎีกาที่ 8119/2559
แม้พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2552 มาตรา 160ตรี วรรคสี่ บัญญัติว่า "ถ้าการกระทำความผิดวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษ..." อันแสดงให้เห็นว่าเป็นการกระทำต่อผู้อื่นก็ตาม แต่ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 เป็นความผิดที่รัฐมีหน้าที่ดำเนินการแก่ผู้กระทำความผิด รัฐเท่านั้นจึงเป็นผู้เสียหาย โจทก์ร่วมจึงมิใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานดังกล่าว ที่จะขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ได้ แม้โจทก์ร่วมมีสิทธิอุทธรณ์ในความผิดตามป อ. มาตรา 291 ก็ตาม แต่เมื่อศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยในความผิดฐานขับรถในขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งกฎหมายบทที่มีโทษหนักสุดตามพรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2552 มาตรา 43(2),160ตรี วรรคสี่แล้ว และโจทก์ร่วมมิใช่ผู้เสียหายในความผิดฐานดังกล่าวโจทก์ร่วมจึงไม่ใช่คู่ความในความผิดตามพรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2552 มาตรา 43(2),160ตรี วรรคสี่จึงไม่มีสิทธิอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยในสถานหนัก และไม่รอการลงโทษได้
ตัวบทกฎหมายอ้างอิง
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
มาตรา 30 คดีอาญาใดซึ่งพนักงานอัยการยื่นฟ้องต่อศาลแล้ว ผู้เสียหายจะยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ในระยะใดระหว่างพิจารณาก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาคดีนั้นก็ได้
มาตรา 193 คดีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ เว้นแต่จะถูกห้ามอุทธรณ์โดยประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น
อุทธรณ์ทุกฉบับต้องระบุข้อเท็จจริงโดยย่อหรือข้อกฎหมายที่ยกขึ้นอ้างอิงเป็นลำดับ
พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522
มาตรา 43 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถ
(2) ในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น
มาตรา 160 ตรี ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 43 (2) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงห้าปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหนึ่งปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สองปีถึงหกปี และปรับตั้งแต่สี่หมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสองหมื่นบาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าสองปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ปรึกษาข้อกฎหมายกับทีมทนายความ ทนายคลายทุกข์ โทร.02-9485700, 081-6161425