ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการออกคำสั่งไม่ฟ้องคดีของอัยการ เป็นการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจ ผิดกฎหมาย
คำพิพากษาฎีกาที่ 3509/2549
การวินิจฉัยสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีของพนักงาน อัยการมิใช่เป็นการวินิจฉัยว่าจำเลยมีความผิดหรือเป็นผู้บริสุทธิ์ดั่งเช่นกระบวนการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลแต่เป็นเพียงการวินิจฉัย"มูลความผิดตามที่กล่าวหาเท่านั้น"ซึ่งเกณฑ์การวินิจฉัยมูลความผิดของพนักงานอัยการที่วินิจฉัยสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องผู้ต้องหาคือมีเหตุผลอันสมควรเพียงพอหรือไม่ที่จะนำตัวผู้ต้องหาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา"เพื่อให้ศาลวินิจฉัยขั้นสุดท้ายว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่"
ดังนั้นการใช้ ดุลยพินิจ สั่งคดีของจำเลย ที่มีคำสั่งไม่ฟ้อง บริษัทส. และป. ทั้งที่หนังสือพิมพ์ซึ่งบริษัทส.เป็นเจ้าของและ ป.เป็นบรรณาธิการลงข้อความเป็นความเท็จและก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ในกรณีนี้เป็นการใช้ดุลพินิจที่มิได้อยู่บนรากฐานของความสมเหตุสมผล แต่เป็นการใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจจึงเกินล้ำออกนอกขอบเขต ของความชอบด้วยกฎหมายและในฐานะที่จำเลยเป็นข้าราชการอัยการชั้นสูง จำเลยย่อมทราบดีถึงเกณฑ์วินิจฉัยมูลความผิดของพนักงานอัยการ การใช้ดุลพินิจผิดกฎหมาย ในกรณีเช่นนี้จำเลยเห็นอยู่ในตัวแล้วว่าเป็นการมิชอบและยังเห็นได้อีกว่า จำเลยเจตนาเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายอีกครั้งเพื่อจะช่วยบริษัทส. และป.มิให้ต้องโทษจากการกระทำความผิดของตนอีกด้วยจำเลยจึงมีความผิดตามปอมาตรา 157 และมาตรา 200 วรรคหนึ่งการที่จำเลยใช้อำนาจในฐานะอัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทโจทก์โดยมิชอบผลของการกระทำของจำเลยคือโจทย์ในฐานะผู้เสียหายไม่ได้รับการเยียวยาตามกฎหมายดังนั้นโจทก์จึงเป็นผู้เสียหายจากการกระทำของจำเลยโดยตรงโจทก์จึงเป็นผู้เสียหาย