การนำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปคืนและขอเปลี่ยนตัวผู้เช่าซื้อ|การนำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปคืนและขอเปลี่ยนตัวผู้เช่าซื้อ

การนำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปคืนและขอเปลี่ยนตัวผู้เช่าซื้อ

  • ทนายคลายทุกข์ ปรึกษากฎหมาย โทร 02-9485700
  • Email: [email protected]
Header Background Image

งานเผยแพร่ความรู้ทางด้าน กฎหมาย การบริหารการจัดการหนี้สินในองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน การฝึกอบรมสัมมนาพัฒนาบุคลากร ในการประกอบธุรกิจ หากหน่วยงานของรัฐ บริษัทห้างร้าน มีความสนใจ เชิญทีมงานไปฝึกอบรมสัมมนาหรือต้องการข้อมูลข่าวสาร ติดต่อได้ที่ 02-948-5700 อ่านต่อ

ท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับหลักสูตรฝึกอบรมการติดตามหนี้ ทวงหนี้อย่างไรให้ได้ผล ได้เงิน รักษาภาพลักษณ์ รักษาลูกค้า/หลักสูตรการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตภายในองค์กร/หลักสูตรกฎหมายแรงงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลหรือผู้บริหารบริษัท สนใจโทร.02-9485700 อ่านต่อ

สืบทุกเรื่องที่คุณอยากรู้ มีเรื่องคาใจอยากรู้ความจริง โทรมาคุยกับกุ้งได้ที่ 081-625-2161หรือ 089-669-5026 "อย่าปล่อยให้มีเรื่องคาใจ อะไรที่ไม่สบายใจ ต้องหาทางปลดปล่อย สืบให้รู้ความจริง จะได้จบสิ้นกันเสียที สำหรับความทุกข์ที่คาใจมาเป็นเวลานาน อย่าปล่อยให้คนนอกใจลอยนวล" อ่านต่อ

รับแปลเอกสารต่างๆ อ่านต่อ

การนำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปคืนและขอเปลี่ยนตัวผู้เช่าซื้อ

  • Defalut Image

ผู้เช่าซื้อนำรถยนต์ไปคืนเพื่อให้ดำเนินการเปลี่ยนตัวผู้เช่าซื้อถือเป็นการบอกเลิกสัญญา

บทความวันที่ 23 ก.พ. 2561, 10:40

มีผู้อ่านทั้งหมด 854 ครั้ง


การนำรถยนต์ที่เช่าซื้อไปคืนและขอเปลี่ยนตัวผู้เช่าซื้อ

              ผู้เช่าซื้อนำรถยนต์ไปคืนเพื่อให้ดำเนินการเปลี่ยนตัวผู้เช่าซื้อถือเป็นการบอกเลิกสัญญา ตามมาตรา 573  แล้วอ้างอิงฎีกาที่ 7024/2548 แม้ภายหลังผู้ให้เช่าซื้อจะไม่อนุมัติให้เปลี่ยนตัว ฎีกาที่ 3238/2552 กรณีเช่นนี้ผู้ให้เช่าซื้อ ไม่มีสิทธิ์ฟ้องผู้ให้เช่าซื้อคนเดิมให้รับผิดตามสัญญาเช่าซื้ออีกเพราะเป็นกรณีผู้เช่าซื้อไม่ได้ผิดสัญญาเช่าซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7024/2548
           จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ไปจากโจทก์โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน จำเลยที่ 1 ผ่อนชำระค่าเช่าซื้อให้แก่โจทก์ 5 งวด แต่ก่อนครบกำหนดชำระประจำงวดที่ 6 จำเลยที่ 1 ติดต่อกับ พ. พนักงานของโจทก์ ณ ที่ทำการของโจทก์ว่าจะเปลี่ยนสัญญาเช่าซื้อใหม่โดยให้ ย. เป็นผู้เช่าซื้อและให้ ก. เป็นผู้ค้ำประกันแทนจำเลยทั้งสอง พ. จึงให้จำเลยที่ 1 และ ย. ลงลายมือชื่อในแบบพิมพ์หนังสือโอนสิทธิตามสัญญาเช่าซื้อของโจทก์ ให้ ย. ลงลายมือชื่อเป็นผู้เช่าซื้อในสัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่โดยไม่มีการกรอกข้อความและลงลายมือชื่อรับมอบรถยนต์ในหนังสือหลักฐานการรับมอบรถยนต์ที่ทำขึ้นโดยบริษัทโจทก์ โดย พ. พนักงานของโจทก์ลงลายมือชื่อในฐานะเป็นฝ่ายโอนสิทธิและผู้ส่งมอบ ซึ่งมีการตรวจสอบความถูกต้องในการจัดทำเอกสารจากพนักงานฝ่ายอื่นของโจทก์ ทั้งในวันดังกล่าวจำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าธรรมเนียมในการโอนสิทธิให้แก่โจทก์รับไปถูกต้องตามประเพณีปฏิบัติในการโอนสิทธิตามสัญญาเช่าซื้อของโจทก์แล้ว อันถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ปฏิบัติถูกต้องตามสัญญาเช่าซื้อ พฤติการณ์เช่นนี้ถือได้ว่า จำเลยที่ 1 ได้ส่งมอบรถยนต์คันที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์แล้วในวันดังกล่าว มิฉะนั้นโจทก์คงจะไม่ยินยอมให้มีการตกลงโอนสิทธิตามสัญญาเช่าซื้อและทำหลักฐานรับมอบรถยนต์ให้แก่ ย. ไป การที่จำเลยที่ 1 ผู้เช่าซื้อได้ส่งมอบรถยนต์คันที่เช่าซื้อคืนแก่โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้บอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแก่โจทก์ โดยไม่ต้องคำนึงว่าหนังสือโอนสิทธิและสัญญาเช่าซื้อระหว่างโจทก์กับ ย. จะได้ทำถูกต้องตามแบบที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ สัญญาเช่าซื้อระหว่างจำเลยที่ 1 กับโจทก์เป็นอันเลิกกันตาม ป.พ.พ. มาตรา 573 นับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ส่งมอบรถยนต์คืนแก่โจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องให้จำเลยทั้งสองรับผิดตามสัญญาเช่าซื้อและสัญญาค้ำประกันที่ทำไว้กับโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3238/2552 
          การที่จำเลยที่ 1 นำรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโจทก์เพื่อขอโอนสิทธิการเช่าซื้อให้แก่ ท. และโจทก์ได้เรียกเก็บเงินค่าเปลี่ยนสัญญา ค่าเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียนโดยใช้แบบพิมพ์ของโจทก์และจำเลยที่ 1 ได้ชำระค่าตรวจสภาพรถ ค่าปรับล่าช้าและสั่งจ่ายเช็ครวม 6 ฉบับ เพื่อชำระค่าเช่าซื้อล่วงหน้าและโจทก์ยึดรถจากผู้ครอบครองคือ ท. และเป็นการยึดรถที่จังหวัดยโสธรอันเป็นภูมิลำเนาของ ท. ซึ่งโจทก์รับในฎีกาว่ายึดรถยนต์ได้จาก ท. พฤติการณ์ดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ส่งมอบรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนโจทก์ซึ่งเป็นการบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแก่โจทก์แล้ว ดังนั้น ไม่ว่าการเปลี่ยนตัวผู้เช่าซื้อจากจำเลยที่ 1 เป็น ท. นั้น โจทก์จะไม่อนุมัติในภายหลัง สัญญาเช่าซื้อก็เป็นอันเลิกกันแล้วนับแต่วันที่จำเลยที่ 1 ส่งมอบรถยนต์พิพาทคืนโจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา 573 ซึ่งเป็นบทบัญญัติให้สิทธิผู้เช่าซื้อเลิกสัญญา เมื่อสัญญาเลิกกันโดยจำเลยที่ 1 มิได้ประพฤติผิดสัญญาและไม่มีหนี้ที่ต้องรับผิดต่อโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าขาดราคาและค่าขาดประโยชน์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1

ผู้เช่าซื้อโดนฟ้องและคนค้ำ.ไฟแนซ์บอกเลิกสัญญา.ยากทราบว่า.ผู้ค้ำที่โดนฟ้องนด้วยนั้น.จะเปลี่ยนมาเป็นผู้เช่าซื้อแทนได้ไหม.เพือให้ผูเช่าซื้อคนเดิมไม่โดนฟ้อง.และท่าปลี่ยนได้จะต้องเสียค่าขาดผลประโยชน์หรือค่าปรับต่างๆไหม.ขอบคุณคับ

โดยคุณ วรธนา สอยดาว 26 ก.พ. 2561, 05:03

ตอบความคิดเห็นที่ 1

นาย ก.คือผู้เช่าและนาย ข.คือผู้ค้ำความสัมพันเปนพ่อลูกกัน.แต่นาย ก.ขาดส่งเพาะร่างกายทุลพลภาพ.จึงเปนสาเหตให้ไฟแนนซ์.(คือโจทย์)ยื่นฟ้องและยกเลิกสัญญาพร้อมทั้งเรียกเก็บค่าต่าง.และค่าทนาย ในกรณีนี้ผู้ค้ำจะขอเปลี่ยนเปนผู้เช่าซื้อแทนนาย ก.ได้ไหมและหาคนค่ำมาแทนแล้วท่าได้นาย ก.จะต้องจ่ายค่าส่วนต่างๆพร้อมทั้งค่าทนายที่ฝ่ายโจทเรียกเก็บไหม

โดยคุณ วรธนา สอยดาว 11 มี.ค. 2561, 16:20

แสดงความเห็น

ข่าวที่มีผู้อ่านมาก