สัญญาเช่าซื้อตกเป็นโมฆะและไม่ทำถูกต้องตามแบบ
ข้อกฎหมายที่ควรรู้จากทนายคลายทุกข์ สัญญาเช่าซื้อตกเป็นโมฆะและไม่ทำถูกต้องตามแบบ ปัญหาว่า โจทก์คิดดอกเบี้ยไม่ถูกต้องจำเลยไม่ได้ให้การต่อสู้ไว้ จะยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นอุทธรณ์ได้เพราะเป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน อ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 5746/2559 คำพิพากษาฎีกาที่ 6205/2559 ที่มาคำบรรยายเนติบัณฑิตสมัยที่ 70 ภาคสองเล่มที่ 10
คำพิพากษาฎีกาอ้างอิง
คำพิพากษาฎีกาที่ 5746/2559
1.สำเนาหนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้องเป็นส่วนหนึ่งของฟ้อง เมื่อมิได้ประทับตราฯเนื่องจากโจทก์นำไปถ่ายเอกสารแนบท้ายฟ้องก่อนการประทับตราสำคัญ การมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนของโจทก์ไม่สมบูรณ์ เมื่อโจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องโดยขอส่งฉบับที่ถูกต้อง เพื่ประโยชน์แห่งความยุติธรรมศาลอนุญาตให้แก้ฟ้องในส่วนการมอบอำนาจที่ไม่ถูกต้องได้
2.ขณะลงลายมือชื่อในสัญญาเช่าซื้อ กรรมการโจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อโดยไม่ได้ประทับตรา แต่เพิ่งมาประทับตราภายหลังเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตราประทับเพราะมีการจดเปลี่ยนชื่อบริษัท แสดงว่าขณะลงลายมือชื่อโจทก์มิได้ประทับตรา ถือไม่ได้ว่าโจทก์ลงลายมือชื่อในสัญญา สัญญาเช่าซื้อเป็นโมฆะ ตามป.พ.พ. มาตรา 572 วรรคสอง ไม่อาจให้สัตยาบันได้แม้จะมีการเข้าถือเอาประโยชน์จากสัญญา
3. เมื่อต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมจากโมฆะกรรม ตามป.พ.พ. มาตรา 172 วรรคสองให้บังคับด้วยบทบัญญัติว่าด้วยลาภมิควรได้ เมื่อไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าโจทก์ จำเลยทราบว่าสัญญาสัญญาไม่ได้ทำเป็นหนังสือเพราะไม่ได้ประทับตราสำคัญโจทก์ การที่โจทก์รับเงินค่าเช่าซื้อไว้จึงเป็นการรับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนเพียงที่เหลืออยู่ขณะเรียกคืน ส่วนจำเลยต้องคืนทรัพย์ที่เช่าซื้อตามสภาพโดยไม่ต้อวรับผิดชอบในความสูญหายหรือบุบสลาย ตามป.พ.พ มาตรา 412