หลอกขายประกันอ้างว่าเป็นการฝากเงิน
ตัวแทนขายประกันหลอกลวงขายประกัน โดยหลอกลวงว่าเป็นการฝากเงินกับธนาคาร สามารถจะถอนเงินได้แต่มีสิทธิพิเศษคุ้มครองโดยการประกันชีวิต เป็นการฉ้อฉลให้ตกลงทำสัญญาประกันชีวิต ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจทำประกันชีวิตจะต้องการฝากเงินเป็นการสำคัญผิดในเนื้อหาหรือลักษณะของพฤติกรรมอันเป็นสาระสำคัญตกเป็นโมฆะตามมาตรา 156 วรรคหนึ่ง และวรรคสอง บริษัทประกันชีวิตต้องคืนเบี้ยประกันภัยทั้งหมด ฐานลาภมิควรได้ตามมาตรา 172 วรรคสองประกอบมาตรา 412 อ้างอิงคำพิพากษาฎีกาที่ 534/ 2559
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 534/2559
จำเลยที่ 1 ฉ้อฉลโจทก์โดยหลอกลวงว่าเป็นการทำกรมธรรม์ที่มีลักษณะที่เหมือนกับการฝากเงินกับธนาคารสามารถที่จะถอนเงินได้แต่มีสิทธิพิเศษคุ้มครองโดยการประกันชีวิต และให้ ส. ลงชื่อในคำขอเอาประกันชีวิตแล้วจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นตัวแทนนำไปยื่นต่อจำเลยที่ 2 เพื่อให้โจทก์เข้าทำสัญญาประกันชีวิตกับจำเลยที่ 2 การฉ้อฉลดังกล่าวเป็นเหตุให้โจทก์ตกลงทำสัญญาประกันชีวิตกับจำเลยที่ 2 โดยสำคัญผิดในเนื้อหาหรือลักษณะของนิติกรรมอันเป็นสาระสำคัญแห่งนิติกรรม สัญญาประกันชีวิตย่อมตกเป็นโมฆะตาม ป.พ.พ. มาตรา 156 วรรคหนึ่งและวรรคสอง จำเลยที่ 2 ซึ่งได้รับเงินค่าเบี้ยประกันภัยไปจากโจทก์จึงต้องคืนเงินที่ได้รับไว้ให้โจทก์อันเนื่องมาจากเป็นลาภมิควรได้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 172 วรรคสอง ประกอบมาตรา 412