เจ้าของร้านอาหารหึงเมียชอบเอาอกเอาใจลูกค้า
เลยยิงทั้งเมียทั้งลูกและน้องสาวเกือบตาย
นายทอม อายุ 34 ปี
ร้องทุกข์ว่า ตามที่มีข่าวลงในหนังสือพิมพ์ทุกฉบับเกี่ยวกับเจ้าของร้านอาหารยิงเมียลูกน้องสาวเกือบตาย
นั้น เป็นเรื่องของครอบครัวตนเอง กล่าวคือ ตนเองเป็นลูกเขยของนายทวีศักดิ์ วิไกรย์ธนาคม อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นคนร้ายในคดีนี้ เป็นพ่อตาของนายทอม ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารอมตะเพลงเก่า เลขที่ 5/755
หมู่บ้านประชาชื่น ถนนสามัคคี ต.บางตลาดมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับแม่ยายและลูกชาย
อายุ 17 ปี พี่น้องของแม่ยายขับไล่ออกจากบ้าน เนื่องจากพ่อตาเป็นคนขี้บ่น พูดมาก
ลูกชายรูปร่างอ้วนใหญ่ น้ำหนัก 100 กว่ากิโล ลูกชายชอบทำร้ายพ่อตาหลายครั้งหลายหน
พ่อตาดุด่าว่ากล่าว
ลูกชายก็จะเข้ามาทำร้ายร่างกายหลายครั้งหลายหนและรวมหัวกับแม่ยาย
ญาติพี่น้องของแม่ยาย และไล่พ่อตาออกไปอยู่นอกบ้าน ใช้ถ้อยคำหยาบคาย
ทำให้พ่อตาน้อยเนื้อต่ำใจอึดอัด
เหตุเกิดเมื่อวันที่
5 กันยายน 2551 เวลาประมาณ 03.00 นาฬิกา พ่อตานั่งดื่มสุรา ภรรยาได้รับโทรศัพท์จากพ่อตาว่า กูยิงหมดแล้ว หมายถึง ยิงเมีย ยิงลูก
น้องสาวของพ่อตา ซึ่งนอนรวมอยู่ในห้องเดียวกัน อยู่ที่บ้านซอยสามัคคี จังหวัดนนทบุรี โดยใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.
ซึ่งเก็บไว้ในบ้าน ทุกคนได้รับบาดเจ็บสาหัส นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์
ประชาชื่น โรงพยาบาลชลประทานปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
หลังจากนั้นพ่อตาได้หลบหนีไป ปิดโทรศัพท์หลบหนี
สาเหตุของการบันดาลโทสะครั้งนี้สืบเนื่องมาจากพ่อตาเป็นคนหึงหวง
นางสุมาศ ภรรยาของตนเองชอบไปพูดคุยกระหนุงกระหนิงกับแขกในลักษณะใกล้ชิด
ทำให้พ่อตาหึงหวงจนมีปากมีเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงหลายครั้งหลายหน
เมื่อมีการต่อว่ากัน ภรรยาก็โต้เถียงจึงเกิดอาการคุ้มคลั่ง
คว้าปืนยิงลูกเมียและน้องสาว
คำถาม
คดีนี้ถ้าพ่อตาเข้ามอบตัวจะมีบทลงโทษมากน้อยเพียงใด
คำแนะจาก
อ.เดชา
-
มีความผิดฐานพยายามฆ่า ตาม ป.อ.มาตรา 80 และมาตรา 288 มีโทษถึงขั้นประหารชีวิต
-
ทางแก้
ควรเข้ามอบตัวและรับสารภาพและต่อสู้เรื่องบันดาลโทสะ
เนื่องจากถูกข่มเหงรังแกอย่างร้ายแรง อ้าง ป.อ.มาตรา 72
ถ้าศาลเห็นใจจะลงโทษน้อยเพียงใดก็ได้
คดีนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับสามีภรรยาที่ชอบหึงหวงจะต้องระงับอารมณ์
มิฉะนั้นต้องเสียใจในภายหลัง