ทนายคลายทุกข์ขอนำรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจที่นำเสนอข่าว

บทความวันที่ 4 พ.ย. 2552, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 10760 ครั้ง

เคแบงก์เตือนแก๊งต้มตุ๋นอาละวาดหลอกขอข้อมูลการเงิน

          ทนายคลายทุกข์ขอนำรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจที่นำเสนอข่าวเกี่ยวการเงินการลงทุน  ที่ธนาคารกสิกรไทยเตือนระวังแก๊งต้มตุ๋นอาละวาด หลอกเอาข้อมูล ทำธุรกรรมทางการเงิน

รายละเอียดรายงานข่าว
นายอำพล โพธิ์โลหะกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้มีกลุ่มมิจฉาชีพได้ออกหลอกลวงประชาชนหลายรูปแบบ โดยการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สรรพากร เจ้าหน้าที่ศาล รวมทั้งพนักงานธนาคารหรือบัตรเครดิตต่าง ๆ  โดยมีเป้าหมายที่ลวงถามข้อมูลส่วนตัวและการเงิน และหลอกให้ทำธุรกรรมการเงินผ่านเครื่องเอทีเอ็ม ซึ่งได้ส่งผลเสียหายให้กับประชาชนจำนวนมาก

ล่าสุดกลุ่มมิจฉาชีพ ได้แอบอ้างเป็นธนาคารกสิกรไทย ใช้โทรศัพท์ทั้งที่เป็นระบบอัตโนมัติและบุคคลสุ่มโทรไปยังกลุ่มบุคคล ทั้งที่เป็นลูกค้าและไม่ใช่ลูกค้าของธนาคาร สอบถามเกี่ยวกับการยืนยันรายการใช้บัตรเครดิต หรือการทำรายการเพื่อจะคืนเงิน โดยมีเป้าหมายที่จะลวงถามข้อมูลลูกค้า อาทิ หมายเลขบัตรประชาชน วันเดือนปีเกิด เลขที่บัตรเครดิต รหัสพิเศษหลังบัตรเครดิต ข้อมูลการเงินของบัญชีทั้งหมดในธนาคารต่าง ๆ และสุดท้ายจะลวงให้ไปทำธุรกรรมที่ตู้เอทีเอ็ม โดยใช้เมนูภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับลูกค้าที่หลงเชื่อได้

ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยขอแจ้งว่า ธนาคารไม่มีนโยบายในการโทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลในลักษณะดังกล่าวจากลูกค้า โดยเฉพาะข้อมูลการเงิน ซึ่งธนาคารจะมีฐานข้อมูลลูกค้าอยู่แล้ว รวมทั้งไม่มีนโยบายในการให้ลูกค้าไปทำรายการป้องกันการทุจริตหรือคืนเงินด้วยตนเองผ่านเครื่องเอทีเอ็มแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม หากลูกค้าได้รับโทรศัพท์แล้วมีข้อสงสัย  สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ K-Contact Center โทร.0 2888 8888 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

นายอำพล กล่าวตอนท้ายว่า กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าวจะมีฐานโทรศัพท์มาจากต่างประเทศ และจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการหลอกลวง และองค์กรที่แอบอ้างไปเรื่อย ๆ ดังนั้นประชาชนควรระมัดระวังในการบอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัว บัตรเครดิต การเงิน และรหัสให้แก่บุคคลอื่น หรือทำธุรกรรมผ่านเครื่องเอทีเอ็มตามโทรศัพท์ หากไม่มั่นใจให้โทรศัพท์สอบถามจากหน่วยงานต้นเรื่องก่อน เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้มีผู้หลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งได้เกิดความเสียหายจำนวนมาก
 

ขอขอบคุณรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ  หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  http://www.bangkokbiznews.com/home/